ไฟเบอร์ รส ส้ม

Last updated: 31 ก.ค. 2566  |  675 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ไฟเบอร์ รส ส้ม

ส่วนประกอบที่สำคัญ

ผงไซเลียมฮัสก์
อินูลิน
ผงไซโล-โอลิโกแซคคาไรด์ 
ผงฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์  (95%)
ผงส้ม
ผงเมล็ดเจีย 
สารสกัดจากถั่วขาว
สารสกัดจากส้ม (ส้มเกลี้ยง)
แอล-คาร์นิทีน แอล-ทาร์เทรท
สารสกัดจากพริกไทยดำ
สารสกัดจากขมิ้น


     สารสกัดจากถั่วขาว (White Kidney Bean Extract) "ถือเป็นพืชในตระกูลถั่วชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยสารอาหารหลากชนิด เช่น โปรตีน ไฟเบอร์รวมถึงวิตามินและเกลือแร่ต่างๆ ที่ล้วนเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ในด้านการลดน้ำหนักนั้น ถือว่ามีคุณสมบัติในการช่วยลดการเปลี่ยนแป้งไปเป็นไขมัน ในถั่วขาวมีสารฟาซิโอลามีน (Phaseolamin)
ทำให้เอนไซม์อะไมเลส ลดประสิทธิภาพการทำงานลงกว่าครึ่ง ดังนั้นจึงลดการเปลี่ยนของแป้งไปเป็นน้ำตาลได้ถึง 60% หลายคนเข้าใจว่าเอนไซม์อะไมเลส มีแต่ในปากเท่านั้น 
แต่ความจริงแล้วในลำไส้ก็มีอะไมเลสด้วย ดังนั้นสารฟาซิโอลามีน จึงออกฤทธิ์ได้ทั้งในปากและในลำไส้ เมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลลดลง
นอกจากที่ร่างกายจะไม่มีน้ำตาลใหม่มาเก็บสะสมในรูปไขมันแล้ว หากร่างกายขาดน้ำตาล ร่างกายจะดึงเอาไขมันที่สะสมไว้ออกมาใช้ จึงทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้

คุณประโยชน์
• มีส่วนช่วยในการยั้บยั้งการย่อยของคาร์โบไฮเดรต
• มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก
• คุมความอยากอาหาร
• ลดการเกิดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน
• ช่วยเผาผลาญไขมันเปลี่ยนเป็นพลังงานแทน
• ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด 

     อินูลิน (Inulin)  เป็นสารอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตประเภทโพลีแซคคาไรด์(polysaccharide)  ที่ละลายน้ำได้
ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหาร มีลักษณะเป็นเส้นใย (dietary fiber) พบในหัวหรือรากพืชบางชนิด
จัดเป็นเส้นใยที่เรียกว่าฟรุกแทน  ส่วนมากพบในส่วนของหัวหรือรากสะสมอาหาร เช่น กระเทียมต้น หอม กระเทียม กะหล่ำปลี ทิวลิป หน่อไม้ฝรั่งและชิโครี โดยจะพบมากในหัวแก่นตะวัน และชิโครี อินูลินจัดเป็นเส้นใยอาหาร (dietary fiber) ที่ไม่ให้แคลอรี มีผลช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่ในเลือด และลดระดับคอเรสเตอรอล (cholesterol) เพิ่มปริมาณ HDLและลดระดับปริมาณ LDLจึงมีการนำมาใช้กับอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานและเป็นอาหารลดความอ้วนได้  

คุณประโยชน์
• ช่วยเสริมระบบการย่อยอาหาร
• บรรเทาอาการท้องผูก
• ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางเดินอาหาร
• คุณสมบัติเป็นพรีไบโอติก (prebiotic)  
• กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน

      แอล คาร์นิทีน (L-carnitine) "เป็นสารชนิดหนึ่งที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับและไตในร่างกายของเราจากกรดอะมิโน 2 ชนิด 
คือ ไลซีน (Lysine) และเมไทโอนีน (Methionine) สามารถเข้าไปช่วยเพิ่มกระบวนการในการดึงไขมันไปใช้
แล้วเปลี่ยนกรดไขมันเป็นพลังงาน ซึ่งพลังงานที่ได้มาส่วนใหญ่ก็จะถูกใช้สำหรับการทำงานของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย
เมื่อร่างกายมีการออกกำลังกายอย่างหนัก ร่างกายจะเผาผลาญไขมันที่สะสมไว้มาใช้เพื่อให้ได้พลังงาน 
โดยแอล คาร์นิทีนจะช่วยในการขนส่งไขมันเหล่านี้เข้าสู่ไมโทคอนเดรีย ซึ่งเป็น อวัยวะของเซลล์ (Organelle) 
ที่ทำหน้าที่เผาผลาญไขมัน นั่นหมายความว่า แอล คาร์นิทีน มีส่วนช่วยในกระบวนการย่อยสลายไขมัน
เมื่อมีออกกำลังกายนั่นเอง แหล่งอาหารจากธรรมชาติที่มี แอล-คาร์นิทีน
ได้แก่ พืชตระกูลถั่ว หน่อไม้ฝรั่ง บร็อคโคลี่ กระเทียม คะน้า และสัตว์เนื้อแดง 

คุณประโยชน์
• ช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและเพิ่มพลังงาน 
• ช่วยลำเลียงไขมันเข้าไปในเซลล์เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน
• ช่วยลดมวลไขมัน


     ไซโลโอลิโกแซ็กคาไรด์  (Xylo-oligosaccharides) "เป็น คาร์โบไฮเดรต ประเภท oligosaccharide ประกอบด้วยโมเลกุลของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (monosaccharide) คือน้ำตาลไซโลส (xylose )เป็นน้ำตาลแอลโดส (aldose) ประเภทเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (monosaccharide) ที่มีคาร์บอนในโมเลกุล 5 อะตอม มาต่อกันด้วยพันธะไกลโคไซด์ (glycoside linkage) การผลิต Xylo-oligosaccharides สกัดออกมาจากพืช เช่น ผลไม้ เปลือกข้าวและธัญพืช ไผ่ ข้าวโพด  โดย XOSจัดเป็นสาร prebiotic ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานและส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์โปรไบโอติก(probiotic)โดยเฉพาะไบฟิโดแบคทีเรีย (bifidobacteria) XOS ช่วยปรับสมดุล ระบบทางเดินอาหาร ป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ ช่วยดูดซับสารพิษในทางเดินอาหารไม่ให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และทำให้อุจจาระมีกากใย 
ป้องกันการติดเชื้อในทางเดินอาหาร ป้องกันอาการท้องเสีย ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อโรคอื่นๆ

คุณประโยชน์
• ป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้
• ช่วยดูดซับสารพิษและป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร
• ช่วยปรับสมดุลระบบทางเดินอาหาร

     ฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ ( Fructo Oligosaccharide ) "จัดเป็นพรีไบโอติก (prebiotic)ชนิดหนึ่ง เนื่องจากไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในลำไส้ ที่มีประโยชน์ เช่น Bifidobacteria และ Lactobacilli ทำให้เกิดการผลิตกรดแลคติก ซึ่งทำให้ลำไส้ใหญ่มีความเป็นกรดมากขึ้น จึงช่วยลดจุลินทรีย์ที่ก่อโรค ซึ่งได้แก่ Clostridium (เช่น C. perfringens, C. difficile), Bacteroides, Coliforms (เช่น E. coli) และเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเยื้อบุลําไส้ อีกทั้ง FOS มีคุณสมบัติ เป็นใยอาหารที่ละลายน้ำได้จึงทำให้มีคุณสมบัติช่วยย่อย ช่วยปรับการเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหารกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลําไส้ช่วยกำจัดของเสียและสารพิษในร่างกายจึงทำให้การดูดซึมของลำไส้นั้นมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายได้อีกด้วย

คุณประโยชน์
• ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย
• ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
• ป้องกันอาการท้องผูก
• ช่วยปรับการเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหาร
• ช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด และโรคอ้วน

    เมล็ดเจีย (Chia Seed) กันมาบ้างแล้ว จากสรรพคุณหลายข้อของเมล็ดเจียที่ดีต่อสุขภาพทั้งช่วยป้องกันโรคและดูแลสุขภาพของเราให้แข็งแรง โดยเฉพาะเรื่องการลดน้ำหนัก แต่อาจยังไม่รู้กันว่าเมล็ดเจียตัวจิ๋วที่เราชอบทานนั้นมีประโยชน์แอบซ่อนอยู่อีกมาก เรียกว่าประโยชน์คับเมล็ดเลยก็ว่าได้ วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขออาสาพาทุกคนมาทำความรู้จักเจ้าเมล็ดเจียตัวจิ๋วนี้กันให้มากขึ้นว่าทำไมเมล็ดเจียจึงเป็นธัญพืชมากประโยชน์ที่เรากินได้ทุกวัน


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้