Last updated: 27 ก.ค. 2566 | 1020 จำนวนผู้เข้าชม |
ส่วนประกอบที่สำคัญ
สารสกัดจากโกจิเบอร์รี่
สารสกัดจากอะเซโรล่า เชอร์รี่
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น
สารสกัดจากบิลเบอร์รี่
สารสกัดจากมะเขือเทศ
เบต้าแคโรทีน
สารสกัดจากบิลเบอร์รี่ (Bilberry Extract) สารสกัดจากผลบิลเบอร์รี่เป็นวัตถุดิบนำเข้าที่ผสานเทคโนโลยี Cell Synapse เป็นนวัตกรรมที่ ช่วยให้สามรถดูดซึมและนำไปใช้ได้มากกว่า เพิ่มประสิทธิภาพในการนำส่งสารสกัดเข้าสู่ร่างกายโดยระยะเวลาอันสั้น การที่ได้รับควบคุมคุณภาพทำให้มีสาร Anthocyanin มากกว่าผลบิลเบอร์รี่ทั่วไป 2 เท่า สารสำคัญที่อยู่ในบิลเบอร์รี่และบลูเบอร์รี่ คือ สารแอนโธไซยาโนไซด์ (Anthocyanosides) ซึ่งจัดอยู่ในสารประเภท Flavonoids มีประโยชน์ในการบำรุงสายตาและบำรุงจอตา มีส่วนช่วยในเรื่องการมองเห็นในที่มืดได้ดีขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นผลดีในโรค ตาบอดตอนกลางคืน (Night blindness)
สารในกลุ่ม Anthocyanosides ยังช่วยป้องกัน retina ถูกทำลายโดยกระบวนการ Oxidation ที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย และยังช่วยสร้าง rhodopsin ซึ่งเป็นสารสี ที่พบได้ในส่วนนอกของ retinal rod จึงอาจจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจกอีกด้วย การวิจัยพบว่า ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มีแอนโธไซยานิน ช่วยคลายความเหนื่อยล้าของดวงตา ช่วยให้การมองเห็นในเวลากลางคืน และช่วยให้การไหลเวียนเลือดในเส้นเลือดฝอยดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีวิตามินซี อี และ ไบโอฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยปกป้องและถนอมดวงตาไม่ให้โดนทำลาย ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับหลอดเลือด และลดโอกาส การเกิดสภาวะหลอดเลือดแข็งตัว หรือหลอดเลือดเปราะ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหลายชนิด ประกอบด้วยสารสำคัญหลายชนิดที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านการเกิดปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น (Antioxidant) จึงลดการเสื่อมของเซลล์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกายได้ อาจจะช่วยลดการเกิดมะเร็งด้วยกลไกของการเหนี่ยวนำให้เซลมะเร็งตายไป ( Apoptosis ) ป้องกันโรคทางสายตา และอาการต่างๆ เช่น ปวดตา ตาแห้ง ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้าง กลูตาไทโอน
ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเอนไซม์กลูตาไทโอน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระหลักของร่างกาย แต่มันจะมีลดลงเรื่อยๆ เมื่ออายุสูงขึ้น หรืออยู่ในระหว่างการเจ็บป่วย
เบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) เบต้าแคโรทีนจัดอยู่ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ที่เป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ทำหน้าที่รักษาสุขภาพของร่างกายให้แข็งแรงและปกติ มีบทบาทสำคัญในการบำรุงร่างกาย ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง ป้องกันโรคหัวใจ เป็นต้น โดยที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนเป็นวิตามินเอได้ตามปริมาณที่ร่างกายต้องการ เบต้าแคโรทีนมีอยู่ในพืชที่มีสีทุกชนิดทั้งผักใบเขียวอย่าง ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักเคล ปวยเล้ง บร็อคโคลี่ หรือตำลึง แต่จะพบมากในผักผลไม้สีส้ม สีเหลืองหรือสีแดง ได้แก่ แครอท ฟักทอง มะเขือเทศ มะม่วงน้ำดอกไม้สุก มะละกอ แอพริคอต พริกหวานสี ข้าวโพดอ่อน เป็นต้น
คุณประโยชน์
• ช่วยบำรุงสายตา ทำให้มองเห็นในที่มืดได้ดี
• ลดความเสื่อมของเซลล์ลูกตา ภาวะจอประสาทตาเสื่อม
• ป้องกันโรคต้อกระจก ป้องกันเยื่อบุตาอักเสบ
• ช่วยในการรักษาเซลล์เยื่อบุตาขาว กระจกตา
• เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณ ไม่มีริ้วรอย แลดูอ่อนกว่าวัย
• เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
สารสกัดจากโกจิเบอร์รี่ อุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหารและประโยชน์ในด้านการต่อต้านอนุมูลอิสระ(Antioxidant)ว่ากันว่าโกจิเบอร์รี่(เก๋ากี้) มีพลังในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่มาทำลายเซลล์และชะลอความชราได้มากที่สุดในโลก มีผลการวิจัยของ Dr.Earl Mindell ระบุว่าผลโกจิเบอร์รีให้คุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดในโลก โดยมีกรดอะมิโน 19 ชนิด มีแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการรวม 21 ชนิด ได้แก่ สังกะสี เหล็ก ทองแดง แคลเซียม ฟอสฟอรัส ซิลีเนียม และเจอร์มาเนียม (ช่วยฆ่าเซลล์มะเร็ง) มีวิตามินซีสูงกว่า มีวิตามินบี1 บี2 บี6 และวิตามินอี ช่วยปรับความดันโลหิตให้เป็นปกติ และช่วยฟื้นฟูสภาพเซลล์ที่ถูกทำลายจากสารเคมีหรือรังสีให้กลับสู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้นและยังค้นพบว่าโกจิเบอร์รี่ช่วยเปลี่ยนอาหารที่เรากินเข้าไปให้เป็นพลังงานแทนไขมันโกจิเบอร์รีมีสารทัวรีน (Taurine) ซึ่งผลการศึกษาจาก Optometry and Vision Science เมื่อปี 2011 พบว่า สารทัวรีนมีคุณสมบัติบำรุงสายตาให้แจ่มใส โดยเฉพาะสายตาของผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัญหาสายตาอันสืบเนื่องมาจากโรคเบาหวาน นอกจากนี้ในโกจิเบอร์รี่ยังมีสารซิแซนทิน(Zeaxanthin) สูง จึงช่วยบำรุงสายตาและป้องกันแสงสีน้ำเงินที่ทำลายดวงตา ทำให้ผู้ที่มีอาการตาพร่ามัว เป็นต้อลม คืนสู่สภาพปกติ และโกจิเบอร์รีมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมากจึงสามารถปกป้องเซลล์ร่างกายจากการถูกทำลายด้วยเซลล์มะเร็งได้ ช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เกิดการอักเสบ ปกป้องเซลล์จากความเสื่อมต่างๆ และป้องกันการเกิดเนื้องอกได้อีกด้วย
สารสกัดจากอะเซโรล่าเชอร์รี่ เป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในหมู่เกาะเขตร้อนแถบทะเล คาริบเบียน เป็นผลไม้ที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่าเป็นแหล่งวิตามินซีจากธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด แหล่งหนึ่งโดยมีปริมาณวิตามินซีสูง จึงช่วยเร่งการสร้างเสริมสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวเต่งตึงจึงทำให้ผิวพรรณดูอ่อนกว่าวัยและทำให้ผิวยังคงกระชับและยืดหยุ่นอยู่เสมอ และวิตามินซียังมีประสิทธิภาพในการกำจัดสิวและแผลเป็น เพราะช่วยเร่งกระบวนการสมานแผลและการลดรอยแดงของร่างกาย นอกจากนี้อะเซโรล่าเชอร์รี่ยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี1 บี2 และบี3 ซึ่งทั้งหมดช่วยทำให้ผิวสวยงามและเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น วิตามินเอช่วยให้ผิวหนังสามารถต่อสู้กับรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าที่ทำให้เกิดผิวเสียได้ ส่วนวิตามินบี บี 1 บี2 บี3 จะช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายและวิตามินบี5 ยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ซึ่งในระยะยาวช่วยลดโอกาสในการเป็นโรคหัวใจได้
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น เป็นสารสกัดที่อุดมไปด้วยพฤกษเคมีจากธรรมชาติที่เรียกว่า “โอลิโกเมอริก โปรแอนโทไซยานิดีน หรือโอพีซี (oligomeric proanthocyanidins: OPC)” ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดี ช่วยลดความผิดปกติของหลอดเลือดและเส้นเลือดฝอย เส้นเลือดขอด เส้นเลือดฝอยเปราะ เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระชั้นเลิศเพราะอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็ง และช่วยเสริมภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยชะลอไม่ให้ผิวหนังแก่ก่อนวัยและแห้งกร้านของเซลล์ผิว ด้วยการเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยปกป้องดวงตาของคุณหรือโรคที่เกี่ยวกับการมองเห็นอื่น ๆ ด้วยการป้องกันและรักษาโรคต้อหิน ศูนย์กลางจอประสาทตาเสื่อม
สารสกัดจากมะเขือเทศ ในมะเขือเทศมีไลโคพีน(Lycopene)ที่มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระและช่วยในการป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา และแบคทีเรีย อุดมไปด้วยวิตามินเอ , วิตามินบี ,วิตามินซี และวิตามินอี ที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว อีกทั้งยังป้องกันการเกิดริ้วรอยได้ด้วย มะเขือเทศมีกรดอ่อนๆ ช่วยทำความสะอาดรูขุมขน ช่วยสมานผิวลดการเกิดสิว กระชับรุมขนให้ละเอียดและเล็กลง ลดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้เป็นอย่างดี และช่วยทำให้ผิวเนียนละเอียดปรับสมดุลผิว ป้องกันการสูญเสียน้ำในเซลล์ผิว เนื่องจากในมะเขือเทศมีวิตามินซีในปริมาณที่สูงมากจึงช่วยลดความมันผิวได้ด้วยและช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพได้อย่างอ่อนโยนพร้อมเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่สดใสและแข็งแรงขึ้น และลดการทำงานของเม็ดสีเมลานินในชั้นผิว ลดรอยดำ และความหมองคล้ำจากผลกระทบโดยตรงหรือโดยทางอ้อมจากแสงแดด ลดการถูกทำลายของผิว ช่วยปกป้องจาการทำลายของอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเกิดริ้วรอยทำให้ผิวมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่งยิ่งขึ้น และกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
1 ส.ค. 2566
1 ส.ค. 2566
1 ส.ค. 2566
1 ส.ค. 2566